องค์กรมาตรฐาน



          จากแนวคิดมาตรฐานเครือข่ายที่ต้องการให้ผู้บริโภคสามารถเลือกซื้อผลิตภัณฑ์ที่มาจากผู้ผลิตรายต่างๆ ได้ โดยผู้ผลิตที่ได้ประดิษฐ์ผลิตภัณฑ์ใดๆ หากได้พัฒนาผลิตภัณฑ์นั้นตามรายละเอียดหรือข้อกำหนดในเกณฑ์มาตรฐานแล้ว ก็จะสามารถนำไปใช้งานหรือสื่อสารร่วมกับอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ต่างๆ ได้อย่างไม่มีปัญหา ดังนั้นจึงได้เกิดองค์กรมาตรฐานขึ้นมา ซึ่งต่อไปนี้เป็นตัวอย่างองค์กรมาตรฐานที่สำคัญๆ

          1. ISO ( International Organization for Standardization )
          ISO  เป็นมาตรฐานอุตสาหกรรมที่ได้ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี ค.ศ.1946 และในปัจจุบันมีมาตรฐานมากกว่า 12,000 มาตรฐานที่บรรจุไว้บนบอร์ด มีสมาชิกมากกว่า 82 อุตสาหกรรมนานาชาติ วัตถุประสงค์ของ ISO ก็คือ เพื่อสนับสนุนการกำหนดมาตรฐานระหว่างชาติ โดยสมาชิกสามารถเป็นผู้ตั้งข้อเสนอจากนั้นทาง ISO ก็จะทำหน้าที่นำข้อเสนอเข้าสู่กระบวนการมาตรฐานเพื่อหาข้อสรุปให้เป็นมาตรฐานสากล สำหรับมาตรฐานด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ ทาง ISO ได้มีการกำหนดมาตรฐานระบบเปิด (Open System Interconnection : OSI) หรือมักเรียกว่า OSI Model

          2. ITU ( International Telecommunications Union )
          เป็นองค์กรที่กำหนดมาตรฐานด้านการสื่อสารโทรคมนาคม โดยมีภาระหน้าที่ในการให้คำปรึกษาทางเทคนิคเกี่ยวกับเทคโนโลยีโทรศัพท์ โทรเลข และอุปกรณ์สื่อสารข้อมูล โดยจะศึกษาทางด้านเทคนิคและการปฏิบัติงาน แต่เดิมนั้นเรารู้จัก ITU ในนามของ CCITT (Consultative Committee for International Telephone and Telegraph) ที่ได้เริ่มก่อตั้งเมื่อราวปี ค.ศ.1970 แต่หลังจากวันที่ 1 มีนาคม ค.ศ.1993 ชื่อ CCITT นี้ก็ได้เปลี่ยนมาเป็น ITU เป็นต้นมา โดยมาตรฐานที่ทาง CCITT พัฒนาขึ้นและได้รับความนิยมอย่างสูงมากในทวีปยุโรป เช่น มาตรฐาน CCITT X.25 หรือ X series

          3. ANSI ( American National Standards Institute )
          เป็นองค์กรที่จัดตั้งขึ้นโดยไม่แสวงผลกำไรทางธุรกิจ ทำหน้าที่ในการประสานงานระหว่างองค์กรกำหนดมาตรฐานอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็น ISO และ ITU-T โดยสมาชิกมาจากหลายๆ ส่วนด้วยกัน เช่น ภาคอุตสาหกรรม หน่วยงานของรัฐบาล ภาคการศึกษา หน่วยงานการวิจัย และกลุ่มผู้บริโภค โดย ANSI จะทำหน้าที่ในการวิเคราะห์เพื่อหาข้อสรุปและกำหนดให้เป็นมาตรฐานใหม่แจ้งให้สมาชิกทราบและนำไปใช้งานต่อไป ตัวอย่างผลงานของ ANSI เช่น ANSI-COBOL, ANSI-C รวมถึงมาตรฐานการสื่อสารเครือข่ายแบบ FDDI ที่ใช้ในเครือข่ายแลน เป็นต้น

          4. IEEE ( Institute of Electrical and Electronics Engineers )
          เป็นองค์กรขนาดใหญ่ที่มีความเชี่ยวชาญด้านวิศวกรรม มีหน้าที่ในการกำหนดมาตรฐานการสื่อสาร โดยมีจุดมุ่งหมายในการกำหนดทฤษฐี การสร้าง และตัวผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพทางวิศวกรรม อิเล็กทรอนิกส์เพื่อนำมาใช้กับซอฟต์แวร์และอุปกรณ์ในชั้นสื่อสารกายภาพ (Physical Layer) และชั้นการเชื่อมต่อ (Data Link Layer) โดยมาตรฐานสำคัญ เช่น มาตรฐานเครือข่ายสายแลน หรือโครงการ 802 ซึ่งมีมาตรฐานย่อยต่างๆ ที่ประกอบด้วย 802.3, 802.4, 802.5, และ 802.11 เป็นต้น

          5. EIA ( Electionics Industries Association )
          เป็นองค์กรที่คล้ายคลึงกับ ANSI กล่าวคือเป็นองค์กรที่ไม่แสวงหาผลกำไรทางธุรกิจ โดยมีภาระหน้าที่ด้านการกำหนดมาตรฐานสำหรับวงจรไฟฟ้า ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของรูปแบบการเชื่อมต่อหรืออินเตอร์เฟซ รายละเอียดของสัญญาณที่ใช้ในการสื่อสาร ขนาดแรงดันไฟฟ้า ตัวอย่างมาตรฐานที่ทาง EIA กำหนดขึ้น เช่น EIA232 หรือ RS232 ที่เป็นการสื่อสารแบบอนุกรมเพื่อใช้ติดต่อระหว่างสองอุปกรณ์ เช่น คอมพิวเตอร์กับโมเด็ม เป็นต้น

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น